top of page

การทำ Keyword Research สำหรับมือใหม่ และเครื่องมือที่ใช้ในการทำ

อัปเดตเมื่อ 9 ก.พ. 2566

การทำ Keyword Research คืออะไร?

Keyword Research คือการวิเคราะห์ ค้นหาหรือวิจัยกลุ่มคำที่จะนำมาทำ SEO ให้กับบทความในเว็บไซต์ของเรา โดยคำหรือ Keyword ที่เลือกมาอาจจะเกี่ยวข้องกับสินค้า บริการ หรือการให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์กรหรือบริษัทของเรานั่นเอง ซึ่งในบทความนี้จะพาไปรู้จักองค์ประกอบต่างๆ ในการทำ Keyword Research เช่น ประเภทของ Keyword คีเวิร์ดที่มีคุณภาพเป็นอย่างไร ประโยชน์ที่ได้รับจากการทำวิเคราะห์คีย์เวิร์ด รวมถึงเครื่องมือในการค้นหาคีย์เวิร์ด(keywordtools) ต่างๆ ในการวิเคราะห์คีเวิร์ด เป็นต้น ถ้าพร้อมแล้ว come with me ไปดูกันเลย…..


ก่อนทำ Keyword Research ควรรู้อะไร?

1.สินค้าของคุณคืออะไรและใครใช้สินค้าเหล่านี้

2.ผู้คนจะค้นหาสินค้าและบริการของคุณด้วยคำว่าอะไร

3.วิเคราะห์ว่าเมื่อคนค้นหาคำเหล่านี้ คำตอบที่เขาอยากได้จากคำค้นนี้จะตรงตามความต้องการหรือไม่

4.รวบรวม คัดกรอง และวิเคราะห์เพื่อนำมาวางแผนการทำ SEO และคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กับสิ่งที่ผู้ค้นต้องการ และเกี่ยวของกับสินค้าของเรา


ทำความรู้จักประเภทของ keyword

1. Short-tail keyword

เป็นคำค้นหรือวลีที่ประกอบด้วยคำที่ยาวไม่เกิน 3-4 คำ โดยให้ความหมายแบบกว้างและผลลัพธ์ในการแสดงที่หลากหลาย จึงเป็นเรื่องยากที่บอกจุดประสงค์ในการค้นหาที่ชัดเจนสำหรับคีย์เวิร์ดแบบสั้น เช่นคำว่า “ร้านอาหาร” เมื่อพิมพ์คำค้นนี้ลงไปสิ่งที่กูเกิลแสดงในหน้าผลการค้นหาจะมีทั้ง ร้านอาหาร สูตรการทำอาหาร การสั่งซื้ออาหาร เป็นต้น


Tips : Short-tail keyword เป็นคำที่มีปริมาณการค้นหาสูง ทำให้การแข่งขันจึงสูงตาม แต่ไม่เกิด Conversion มากนักเพราะด้วยความหมายที่กว้างบางทีอาจไม่ตรงตามความต้องการของผู้ค้น ซึ่งคีเวิร์ดประเภทนี้จะใช้เป็น theme keyword ฉาบทั่วเว็บเพื่อให้กูเกิลรู้ว่าเรามีสินค้า บริการเกี่ยวกับอะไรเสียมากกว่า


2. Long-tail keyword

เป็นคำค้นหรือวลีที่ประกอบด้วยคำที่มีความยาวมากกว่า 3-4 คำขึ้นไป โดยให้ความหมายที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น และบ่งบอกวัตถุประสงค์และความต้องการได้ตรงจุดเช่นคำว่า “ร้านอาหารเกาหลี กทม” ” เมื่อพิมพ์คำค้นนี้ลงไปสิ่งที่กูเกิลแสดงในหน้าผลการค้นหาคือ ร้านอาหารเกาหลีที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งยังทราบถึงความต้องการของผู้ค้นได้ว่าต้องการรับประทานอาหารเกาหลี ที่อยู่ในเขตกทม เป็นต้น


Tips : Long-tail keyword เป็นคำที่มีปริมาณการค้นหาอาจจะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับ Short-tail keyword แต่ก็ทำให้การแข่งขันนั้นไม่สูงและมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น ซึ่งก็จะเป็นข้อดีที่อาจจะทำให้เกิด Conversion มากขึ้นตามไปด้วย เพราะคำค้นประเภทนี้ใช้สำหรับหน้าเพจที่เป็นเป้าหมายโดยเฉพาะหน้าผลิตภัณฑ์และโพสต์ในบล็อก ตาม target group ของเรานั่นเอง


Keyword ที่ดีและมีคุณภาพประกอบด้วยอะไรบ้าง

เมื่อรู้จักประเภทของคีเวิร์ดแล้ว ขั้นตอนต่อต่อไปของการทำ keyword Research คือการดูว่าคำหรือคีย์เวิร์ดไหนที่มีคุณภาพ โดยคีเวิร์ดที่มีคุณภาพมีองค์ประกอบดังนี้

1. Relevance มีความเกี่ยวของในสิ่งที่เราทำ

การเลือกคีย์เวิร์ดไม่ใช่แค่คิดอะไรได้แล้วก็ใส่ลงไป แต่คำๆนั้นต้องมีความเกี่ยวของกับสิ่งที่เราทำและวัตถุประสงค์ที่จะสื่อสารไปยังผู้ค้นด้วย เช่น หากเราเป็นร้านสอนทำอาหารฝรั่งเศส ก็ควรใช้คำว่า “สอนทำอาหารฝรั่งเศส” หรือ “สอนทำอาหารฝรั่งเศส ราคาถูก” เป็นต้น


2. Volome มีจำนวนการค้นหาที่ไม่น้อยเกินไป

การเลือกคีย์เวิร์ดควรเป็นคำที่มีจำนวนการค้นหาในปริมาณที่ไม่น้อยเกินไป เพราะหากคำที่มีจำนวน volume น้อย จำนวน traffic ก็น้อยตามไปด้วย แม้จะติดอันดับในหน้าแรกก็ตาม แต่อาจจะไม่มีคนคลิกหรือเข้าเว็บไซต์มาเลยก็ได้ ซึ่งจะเป็นการเสียแรงและเวลาโดยไม่จำเป็น


3. Competition คีย์เวิร์ดที่ดีต้องสามารถแข่งขันได้

คำแต่ละคำจะมีความยากและง่ายในการแข่งขันไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับอุตสาหรรมในบริการนั้นๆ เช่นบางสินค้าที่อยู่ในตลาด red ocean บางคีเวิร์ดเหล่านี้แน่นอนย่อมมีการแข่งขันที่สูง หากต้องการทำอันดับแข่งขันอาจใช้เวลาและงบประมาณพอสมควร ดังนั้นการที่เราเป็นเว็บใหม่ที่พึ่งสร้างควรใช้คำที่มีการแข่งขันไม่สูงมากจะดีกว่า(ดูได้จากค่า KD=keyword difficulty ใน ubersuggest)

*Keyword Difficulty คือ ระดับความยากง่ายของ Keyword ที่จะบอกว่า Keyword แต่ละตัว มีระดับความยากง่ายแค่ไหน โดย Keyword ที่มีตัวเลขสูง แสดงว่ามีหลายเว็บไซต์นิยมใช้คีเวิร์ดตัวนี้เพื่อจัดอันดับ


เครื่องมือในการทำ Keyword Research

เครื่องมือในการทำ Keyword Research มีหลากหลายมากทั้งแบบฟรีและเสียค่าบริการ ในวันนี้ทางเราจะขอเสนอ 2 เครื่องมือสำหรับมือใหม่ที่คนทำ SEO นิยมใช้กันคือ 1. Google keyword planner และ 2. ubersuggest by neil patel


เป็นเครื่องมือฟรีที่ทางกูเกิลได้จัดทำไว้ให้สำหรับการวิเคราะห์คีเวิร์ด แต่จะเน้นไปที่ส่วนของ PPC เป็นหลัก แต่สำหรับการทำ Organic สามารถทำมาเป็นแนวทางประยุกต์ใช้ได้เช่นเดียวกัน โดยมีขั้นตอนดังนี้


การทำ keyword research โดยใช้ keyword planner

เมื่อเข้ามาที่หน้า ads.google.com แล้วให้คลิกไปต่อที่ tools and settings จากนั้นเลือกที่เมนู keyword planner



การหา keyword ใน google keyword planner

เลือก Discover new keywords



การวางแผน keyword research เพื่อหาคีย์เวิร์ดสำหรับหน้า service

ตัวอย่างนะครับ หากเราเป็นร้านอาหารเกาหลีที่ขายคอร์สสอนสูตรอาหารเกาหลีด้วย ถ้าผมให้เลือกคำว่า 1.เรียนทำอาหารเกาหลี 2.สูตรกิมจิ 3.สูตรข้าวปั้นเกาหลี เพื่อมาทำ Keyword Research ให้กับเว็บของเรา คุณผู้อ่านจะเลือกคำไหน......คำตอบคือเลือกนำมาทำได้ทั้งสามคำเลยครับ แต่เราควรมาวิเคราะห์ว่าคำไหนควรใช้ในหน้า Service คำไหนควรเป็นคำที่ใช้ในหน้า Blog


ส่วนนี้คำว่า "เรียนทำอาหารเกาหลี" เหมาะสำหรับหน้า Service มากกว่าเพราะ Intent ของผู้ค้นหาต้องการที่จะเรียนทำอาหารเกาหลี ส่วนคำว่า "วิธีทำกิมจิ" และ "วิธีทำข้าวปั้นเกาหลี" คนค้นหาอาจจะต้องการคำแนะนำหรือวิธีการทำ เพื่อนำไปทำอาหารเองมากกว่า


การวางแผน keyword research เพื่อหาคีย์เวิร์ดสำหรับหน้า blog

โอ้ว...งั้นแบบนี้เราก็โฟกัสที่การทำคำว่า "เรียนทำอาหารเกาหลี" ไปเลยสิ ไม่ต้องสนใจคำอื่นๆ หรอก เพราะมันขายไม่ได้ แบบนี้ก็ไม่ถูกซะทีเดียวนะครับ สังเกตุไหมว่าคำๆ นี้มีการแข่งขันที่สูงปรี๊ดมากเลยทีเดียว อาจจะต้องแข่งกับเว็บอื่นอีกเป็นสิบเป็นร้อยเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นการหาคำค้นที่เกี่ยวข้องกับสูตรอาหารเกาหลี ที่มีจำนวน Search Volume และการแข่งขันที่ไม่สูงมาก เพื่อให้หน้านั้นได้อันดับที่ดีและสร้าง traffic ก่อน จากนั้นก็ทำ Internal Links ไปยังหน้า Service ก็จะช่วยเพิ่มพลังและหน้า Service นั้นติดอับดับได้ไวขึ้น ซึ่งบางทีจุดเริ่มต้นของการซื้อขายไม่ได้เริ่มต้นจากหน้า Service เสมอไปนะครับ เพราะฉะนั้นลองวางแผนการทำ Keyword Research ให้ดีๆ



Ubersuggest by neil patel เป็นอีกเครื่องมือในการทำ keyword research ที่นิยมใช้กัน ซึ่งส่วนของ ubersuggest จะเน้นไปที่การวิเคราะห์คำเพื่อการเสิร์ชแบบ organic มากกว่า โดยมีขั้นตอนดังนี้


การดู keyword difficulty ในการทำ keyword research

เมื่อเข้ามาหน้าเว็บแล้วให้กรอกคำค้นที่ต้องการ และเลือก Location เป็น thai/thailand จากนั้นทางเว็บจะแสดงข้อมูลออกมาดังภาพตัวอย่าง โดยจะมีข้อมูลเช่น จำนวนการค้นหา(search volume) ความยากในการจัดอันดับ(SEO difficulty) เป็นต้น



การหา keyword idea เพื่อวางแผนการทำ keyword research

รวมถึงการแนะนำ keyword ideas เพื่อหาคำที่เกี่ยวข้องเพื่อนำคำเหล่านี้ไปจัดเก็บไปฐานข้อมูลการทำ keyword research

การทำ keyword research โดยเครื่องมือ ubersuggest

ไม่หมดเพียงแค่นั้นยังแนะนำการหาไอเดียไปทำคอนเทนต์ได้ด้วย และสังเกตุให้ดีหากคุณต้องการวิเคราะห์ว่าคู่แข่งทำคอนเทนต์แบบไหน ใช้คีเวิร์ดอะไร backlink มากน้อยแค่ไหน ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน


7 ข้อผิดพลาดในการทำ Keyword Research

  • ไม่วิเคราะห์ Search Intent ของผู้ใช้งาน

  • มองข้าม long tails keyword

  • ไม่วิเคราะห์คู่แข่ง ว่าคู่แข่งนั้น Rank ด้วยคำหรือคีย์เวิร์ดแบบไหน

  • เลือกคีย์เวิร์ดที่มี search volume น้อยเกินไป

  • ไม่ดูความยากง่ายในการแข่งขันของคีย์เวิร์ดคำนั้นๆ

  • ใช้คีย์เวิร์ดเดียวกันในหลายๆ หน้าเพจ

  • ไม่วางแผนการทำ seasonal keyword


สรุปการทำ Keyword Research

สรุปการทำ keyword research ก็คือการค้นหาคำที่จะนำมาทำ SEO ให้แก่เว็บไซต์ของเรา โดยมีหลักการง่ายๆไม่กี่อย่าง ได้แก่ การดูว่าสินค้าเราคืออะไรใครจะใช้สินค้าของเรา เขาใช้คำไหนในการค้นหา และค้นหาแล้วได้คำตอบตามที่ต้องการหรือไม่ จากนั้นเมื่อได้ชุดข้อมูลตรงนี้แล้วก็มาวิเคราะห์หาคำค้นโดยใช้ปัจจัย 3 อย่าง คือ Relevance มีความเกี่ยวของในสิ่งที่เราทำไหม Volume มีจำนวนการค้นหาที่ไม่น้อยเกินไป และ Competition คีเวิร์ดที่ใช้สามารถแข่งขันเพื่อทำอันดับได้ยากง่ายแค่ไหน สำหรับคนที่เริ่มเรียนรู้ SEO หรือต้องการเป็น SEO Specialist อย่ามองข้ามเทคนิคการทำ Keyword Research ให้เชี่ยวชาญนะ

Kommentare


Die Kommentarfunktion wurde abgeschaltet.
bottom of page