SEO เป็นหนึ่งในช่องทางการตลาดออนไลน์ที่คนทำการตลาดต้องให้ความสำคัญและติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เนื่องจาก Google อัปเดตอัลกอริทึมในการจัดอันดับเว็บไซต์อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา คุณค่า และประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน ซึ่งหมายความว่าทุกๆ ปี นักการตลาดจะต้องติดตาม อัพเดท เทรนด์ของ SEO เพื่อปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสิ่งที่ Google และผู้ค้นหาต้องการ เพื่อที่จะได้มอบคุณค่าใหม่ที่ดีกลับคืนแก่ผู้ใช้งานนั่นเอง
วันนี้ เราได้รวบรวม 10 SEO Trend ที่เป็นที่นิยมในปี 2023 จากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำมาเป็นวิธีการปรับปรุงกลยุทธ์การทำ SEO ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น จะมีอะไรแปลกใหม่และน่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลย…
1. E-E-A-T
เมื่อก่อนการทำ SEO หรือการส่งมอบคอนเทนต์ที่ดีต้องมีการคำนึงถึงหลัก E-A-T (Expertise ความเชี่ยวชาญ - Authoritativeness เป็นที่ยอมรับ – Trustworthiness ความน่าเชื่อถือ) แต่เมื่อเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมากูเกิลได้มีการอัพเดทและเพิ่ม E อีกตัวเข้ามานั่นคือ Experience คือประสบการณ์ โดยในที่นี้คือเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่ได้รับการกลั่นกรองหรือถ่ายทอดจากประสบการณ์ของผู้เขียนที่มีความเชี่ยวชาญในสิ่งนั้นจริงๆ
เช่น บทความจากผู้ก่อตั้งของบริษัทรับทำ SEO ที่มีประสบการณ์จริง ได้สร้างบทความเกี่ยวกับ SEO trend ที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 เนื้อหาที่แสดงออกมาก็จะเข้าใจง่าย ผู้อ่านสามารถมองภาพตามได้อย่างเข้าใจ เพราะการถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน อย่างไรก็ตาม หากให้นักเขียนที่เก่งด้าน SEO ไปสร้างเนื้อหาบนเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ อาจจะทำให้คุณภาพของเนื้อหาลดลง เนื่องจากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และไม่มีประสบการณ์ด้านสุขภาพเลยนั่นเอง
2. การใช้ AI ในการสร้างคอนเทนต์
ปัจจุบัน AI ได้เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงการตลาดด้วย และการสร้างคอนเทนต์ ที่มี AI ช่วยการเขียนเนื้อหากำลังเป็นเทรนด์การทำ SEO ที่นิยมเพิ่มขึ้น เพราะเป็นเครื่องมือที่ง่ายและช่วยประหยัดเวลาสำหรับธุรกิจ แต่ แต่ แต่…ถึงแม้ AI จะมีประสิทธิภาพอย่างเหลือเชื่อในการสร้างสรรค์บทความ แต่ก็ยังไม่สามารถส่งต่อข้อมูลเหล่านี้ลงบนเว็บของเรา จนกว่าเราจะมีการตรวจสอบ แก้ไขและปรับแต่งจนแน่ใจว่าบทความที่สร้างด้วย AI จะมี:
คุณภาพที่ดี ตอบโจทย์และมอบคุณค่าแก่ผู้ค้นหา
เกี่ยวของกับกลุ่มเป้าหมาย
ไม่สร้างความสับสนแก่ผู้อ่าน เข้าใจง่าย
มีการแฝงด้วยความรู้และถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงของผู้เขียนในบทความ
ใกล้เคียงกับบุคลิกของแบรนด์ โดดเด่น แตกต่างและไม่คัดลอกผู้อื่น
3. Backlinks ยังมีความสำคัญในปี 2023
ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 ช่วงหนึ่งในงานสัมนา John Mueller ได้กล่าวว่า Google จะพยายามลดความสำคัญของ backlink เป็นตัวชี้วัดคะแนนการจัดอันดับ
ในความเป็นจริงเราทราบว่า Google ได้ตักเตือนรวมถึงสร้างบทลงโทษสำหรับคนที่ทำการซื้อขาย backlink มานานแล้ว
แต่ความจริงทุกวันนี้ Google ก็ยังไม่สามารถตรวจจับการซื้อขายลิงก์ได้ขนาดนั้น เช่น blogger outreach, guest posting, และการแลกเปลี่ยนลิงค์กับพาร์ทเนอร์ เป็นต้น
สรุปก็คือการทำ backlinks ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการจัดอันดับและกูเกิลไม่ได้ซีเรียสนะถ้าเราจะทำลิงก์ แต่ควรมาจากเว็บที่ค่าคะแนนดี เกี่ยวข้องกับเนื้อหาและบริการ และไม่มากจนผิดสังเกตุจนถูกมองว่าเป็นการสแปม
4.ดาวรุ่งอย่าง Video SEO กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่า Youtube เป็นเสิร์ชเอ็นจิ้นที่ใหญ่เป็นอันดับสอง การทำ youtube seo จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ และแบรนด์ควรให้ความสำคัญกับการเสริชรูปแบบวิดีโอด้วย เพื่อเป็นการเพื่อตัวเลือกและช่องทางให้ทั้งแบรนด์และลูกค้า โดยเนื้อหาวิดีโอมีข้อดีบางอย่างแตกต่างจากบล็อก SEO ที่สามารถขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมกับผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพดังนี้
คอนเทนต์วิดีโอสามารถถ่ายทอดเรื่องราวที่ซับซ้อนให้เข้าใจได้ง่าย ทำให้ผู้คนสามารถรับข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว การวิจัยระบุว่าการสื่อสารด้วยภาพมีประสิทธิภาพในการจดจำข้อมูลมากกว่าการอ่านเนื้อหาที่มีความยาวมากๆ
วิดีโอสามารถกระตุ้นให้ผู้ดูมีส่วนร่วมกับแบรนด์ การมีส่วนร่วมที่มากขึ้นทำให้โอกาสที่ผู้ดูจะอยู่กับคอนเทนต์ของเราได้นานขึ้น ดังนั้น วิดีโอสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมมากกว่า
วิดีโอมีแนวโน้มที่จะถูกแบ่งปันมากกว่าบล็อกโพสต์ ทำให้มีผู้พบเห็นมากขึ้นและเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น รวมถึงผู้ที่อาจไม่เจอแบรนด์ของเราผ่านเครื่องมือค้นหา
5. User Experience ประสบการณ์ของผู้ใช้งานคือสิ่งสำคัญ
เมื่อผู้คนค้นหาบางสิ่งบนอินเทอร์เน็ต ในยุคที่พวกเขามีตัวเลือกมากมายให้เลือก ดังนั้นการมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมเมื่อพวกเขาเข้ามาเยี่ยมชมเว็บของเราจึงเป็นสิ่งสำคัญ หากเว็บไซต์ของคุณมีหน้าเว็บที่โหลดช้า การนำทางและการออกแบบที่สับสน หรือเนื้อหาที่ไม่ตรงตามความต้องการ พวกเขาจะออกจากเว็บไซต์และมองหาตัวเลือกอื่นๆ ดังนั้นเราควรให้ความสำคัญในการออกแบบเว็บไซต์โดยคำนึงถึงผู้ใช้ปลายทางเสมอ เพราะท้ายที่สุดแล้วพวกเขาคือเป้าหมายที่จะมาซื้อผลิตภัณฑ์หรือใช้บริการของคุณ
6. Author Authority ความเชี่ยวชาญของผู้เขียน
อีกหนึ่งสิ่งที่กูเกิลเน้นย้ำตลอดในหลายปีที่ผ่านมาคือเรื่องของเกี่ยวกับประสบการณ์ และประสบการณ์ในที่นี้จะพูดถึง คือการเพิ่มคะแนนการจัดอันดับของบทความที่สร้างโดยการใช้ AI นั่นเอง โดยกูเกิลต้องการทำให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่ถูกจัดอันดับในปี 2023 นั้นจะถูกสร้างโดยบุคคลที่เชี่ยวชาญจริงและสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ตรงของเขาสู่ผู้อ่านได้
ซึ่งสิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับตัวผู้เขียน สามารถลองทำด้วยวิธีต่อไปนี้:
ประวัติของผู้เขียน เพื่อให้ผู้อ่านมั่นใจได้ว่าผู้ทำบทความสามารถสื่อสารความรู้และความเชี่ยวชาญได้ดี ครบถ้วนและตอบโจทย์
เชื่อมโยงบัญชีโซเชียลมีเดียของครีเอเตอร์เพื่อให้ Google เข้าใจได้ง่ายขึ้น ผ่าน social signal ว่าพวกเขาเป็นคนจริงๆ และเป็นผู้เชี่ยวชาญตัวจริงในเรื่องราวนั้นๆ
7. ปรับเนื้อหาเพื่อเข้าถึงตลาดท้องถิ่น Content Localization
อีกหนึ่ง SEO trend ในปี 2023 ที่ไม่ควรมองข้ามนั่นคือ Content Localization หรือการสร้างและปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับตลาดและกลุ่มเป้าหมายของเรา ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการมีส่วนร่วมและ conversion rate ในสถานที่เป้าหมายตามแหล่งภูมิศาสตร์ได้นั่นเอง โดยหัวใจหลักของแนวคิดนี้คือการปรับเนื้อหาเว็บให้เข้ากับข้อกำหนด ภาษา วัฒนธรรม หรือสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของภูมิภาคนั้นๆ
โดยการปรับเปลี่ยนนี้จะรวมถึงทุกแง่มุมของเนื้อหา เช่น ข้อความ การออกแบบ รูปภาพ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ ราคา และอื่นๆ ด้วยวิธีนี้ลูกค้าจะรู้สึกเหมือนกับอยู่บ้านของตนเอง และเกิดการอยากมีส่วนร่วมหรือใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา
8. SERPs ของ Google จะฉลาดขึ้น แสดงผลได้มากขึ้น แม้ไม่เข้าชมเว็บ
กว่า 50% ของการค้นหาจบลงโดยไม่มีการคลิกเข้าชมเว็บไซต์เลยแม่แต่น้อย สิ่งเหล่านี้เรียกว่าการ zero-click searches ซึ่งเกิดขึ้นในเครื่องมือค้นหาเช่น Google, Bing, หรือ Yandex โดยปัจจุบัน SERP ใหม่ๆ ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงวิดเจ็ตต่างๆ ที่ตอบคำถามโดยที่ไม่ต้องเข้าชมเว็บไซต์ด้วยซ้ำ การค้นหาแบบศูนย์คลิจึงกลายเป็นสิ่งที่พบได้มากขึ้น และบางตัวอย่างของคุณสมบัติ SERP ที่ช่วยสร้างการค้นหาศูนย์เปิดได้แก่ Direct Answer หรือ Knowledge Panel ของ Google
9. โอกาสใหม่ๆ ที่พร้อมจะเข้ามาด้วย Voice Search
SEO trend ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้อีกตัวในปี 2023 คือ Voice Search นั่นเอง ด้วยการเพิ่มขึ้นของลำโพงอัจฉริยะ เช่น Amazon Echo และ Google Home ผู้คนจำนวนมาก จึงเริ่มหันไปใช้การค้นหาด้วยเสียงเพื่อค้นหาสิ่งที่ต้องการทางออนไลน์ และในปี 2023 นี้ ผู้คนจะใช้การค้นหาด้วยเสียงมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเราต้องมีกลยุทธ์ที่รองรับการค้นหาด้วยเสียงเพื่อให้ได้ตำแหน่งในการค้นหาที่สูงขึ้น และมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของเราปรากฏในผลการค้นหาเมื่อมีคนถามคำถามด้วยเสียง
10. อย่าละเลยความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน
คงจะไม่มีใครยินดีหรอกใช่ไหม ที่อยู่การท่องเว็บไซต์อยู่ดีๆ แล้วข้อมูลสำคัญทั้งประวัติส่วนตัว การเงิน ถูกขโมยขณะดำเนินธุรกรรมออนไลน์ ในปัจจุบันผู้ใช้งานมีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น หากพวกเขาเห็นว่าข้อความด้านบนของเบราว์เซอร์ที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์ของเราไม่ปลอดภัย พวกเขาจะกดออกและไปที่อื่นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้แบรนด์อาจเสียโอกาสทั้งการขายและความน่าเชื่อถือได้ เพราะฉะนั้นลงทุนการติดตั้งใบรับรอง SSL และทำเว็บให้ปลอดภัย น่าเชื่อถือเถอะครับ ดีกว่าการสูญเสียการขายโดยไม่จำเป็น
สรุปเกี่ยวกับ SEO trend 2023
เป็นยังไงบ้างครับเกี่ยวกับเทรนด์การทำ SEO สำหรับปี 2023 ที่ทางเราได้รวบรวมมาให้อ่านกันซึ่งขอบอกก่อนว่าทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่เทรนด์หรือสิ่งที่อาจจะนำมาปรับหรือประยุกต์ใช้ โดยรวมอาจจะไม่ได้การันตีว่าเว็บไซต์ของเราจะมีความสามารถทำอันดับเหนือกว่าคู่แข่งได้ด้วยการทำตามเทรนด์หรือข้อแนะนำทั้งหมดนะครับ
แต่หากเรามีการปรับปรุง ติดตามและนำเทรนด์การทำ SEO 2023 เหล่านี้มาปรับเป็นกลยุทธ์และคำนึงถึงผู้ใช้งานให้มากขึ้น เชื่อว่าต่อให้เทรนด์จะเปลี่ยนและมีมากขึ้นแค่ไหน ขอแค่ติดตาม ปรับใช้ให้ถูกต้องเหมาะสม เชื่อว่าการได้อันดับที่ดีก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป